สัปดาห์มีฝน พื้นที่ไหน ? เช็กเลย…
14-16 ก.พ. 65 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้
ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น
สำหรับภาคใต้มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณหัวเกาะสุมาตรา ประกอบกับมีลมตะวันออกที่พัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 17-19 ก.พ. 65 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกทีพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง
ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 14 – 16 ก.พ. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย
อากาศรายภาค ดังนี้
ภาคเหนือ
13 – 15 ก.พ. 65 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 12-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 4-15 องศาเซลเซียส
16 – 19 ก.พ. 65 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 6 – 17 องศาเซลเซียส
ภาคอีสาน
14 – 16 ก.พ. 65 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่
17 – 19 ก.พ. 65 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า
โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-18 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง
14 – 16 ก.พ. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
17 – 19 ก.พ. 65 มีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก
14 – 16 ก.พ. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
17 – 19 ก.พ. 65 มีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 – 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
14 – 16 ก.พ. 65 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
17 – 19 ก.พ. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 20-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
14 – 16 ก.พ. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
17 – 19 ก.พ. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่
ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
14 – 16 ก.พ. 65 เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่ง
17 – 19 ก.พ. 65 เมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส